ถึงแม้ว่ากีฬาคาราเต้หรือคาราเต้โดในประเทศไทยจะพึ่งเริ่มเป็นที่นิยมได้ไม่นาน แต่สำหรับนักกีฬาไทยแล้วมักจะทำได้ดีเสมอในกีฬาประเภทศิลปะการต่อสู้ ไม่เว้นแม้แต่คาราเต้ด้วยเช่นกัน ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นกีฬาที่ยังใหม่อยู่หากเทียบกับมวยไทยหรือเทควันโด แต่ก็มีนักกีฬาที่โดดเด่นและสร้างชื่อให้กับประเทศมาหลายคนด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือนักคาราเต้สาวดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง “จ้าจีน” ณีรนุช แตงเลี้ยง สาวน้อยวัยย่าง 20 ที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนและกวาดเหรียญรางวัลมาแล้วอย่างมากมายเกินวัยของเธอ
น้องจ้าจีนนั้นเริ่มต้นเล่นกีฬาชนิดนี้มาตั้งแต่มีอายุเพียง 7 ขวบ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของเธอซึ่งตอนเด็กไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่สิ่งที่เธอและคุณแม่เลือกเป็นกีฬาสร้างสุขภาพให้เธอจริง ๆ แล้วคือเทควันโดต่างหาก แต่ตัวเธอเองกลับให้ความสนใจในคาราเต้ที่มีการสอนอยู่ใกล้ ๆ กัน ซึ่งเมื่อเธอได้ลองเปลี่ยนมาเล่นกีฬาชนิดนี้แล้ว ทำให้เธอสนุกและมีความสุขในการเรียนมากกว่า จึงทำให้เธอเลือกที่จะฝึกซ้อมและทำการแข่งขันตั้งแต่นั้นเรื่อยมา
เธอเริ่มแข่งขันครั้งแรกในกีฬาคาราเต้ตั้งแต่ที่เริ่มเรียนไปได้เพียงไม่กี่เดือน และทำการแข่งขันมาเรื่อย ๆ จนเธอมาคว้าเหรียญทองครั้งแรกได้ตอนที่เธออายุได้ 9 ขวบ ซึ่งเหรียญทองเหรียญนี้แหละ ที่ทำให้เธอรู้สึกอยากจะไปต่อบนเส้นทางสายนี้อย่างจริงจัง โดยช่วงนั้นเธอก็เริ่มกวาดเหรียญรางวัลในระดับเยาวชนภายในประเทศมาได้อย่างต่อเนื่อง เรียกว่าแทบจะทุกปีเลยในการแข่งขันระดับเยาวชน พออายุ 12 ปี เธอก็พาตัวเองก้าวไปอีกขั้นกับการได้โอกาสเป็นตัวแทนเยาวชนทีมชาติไทย ซึ่งเธอก็เริ่มต้นการติดธงชาติด้วยหนึ่งเหรียญทองกับอีกหนึ่งเหรียญทองแดงกลับจากมาเลเซีย และหลังจากนั้นอีกเพียงแค่สองปี เธอก็ก้าวกระโดดขึ้นสู่ทีมชาติไทยอย่างเต็มตัว และการก้าวเข้าสู่ทีมชาตินั้นก็ไม่ได้มาจากการที่โค้ชมองเห็นแววอย่างเดียว แต่เธอในวัย 14 นั้นยังต้องฝ่าด่านคู่แข่งอีกสิบกว่าคน ด้วยการแข่งขันแบบพบกันหมดอีกด้วยซึ่งนั่นทำให้พูดได้เต็มปากเลยว่าสาวน้อยคนนี้ “ของจริง” ซึ่งก็พิสูจน์แล้วกับผลงานในนามทีมชาติที่เธอกวาดสามเหรียญทองชิงแชมป์เอเชียและพลาดได้เหรียญเงินครั้งหนึ่งในรอบสี่ปีที่ผ่านมา นั่นแปลว่าแม้แต่ต้นตำหรับอย่างญี่ปุ่นก็หยุดเธอยากแล้ว
เป้าหมายสูงสุดบนเส้นทางกีฬาของเธอ ก็คงจะเหมือนกับนักกีฬาส่วนใหญ่นั่นก็คือการไปถึงเหรียญโอลิมปิกนั่นเอง ซึ่งกีฬาคาราเต้ในโอลิมปิกนั้นกำลังจะมีการบรรจุเข้าในการแข่งขันโดยทางเจ้าภาพญี่ปุ่น ที่โตเกียวครั้งนี้เป็นสมัยแรก และหากได้รับการบรรจุในโอลิมปิกอย่างต่อเนื่องแล้ว ความฝันในการคว้าเหรียญของ “จ้าจีน” ณีรนุช แตงเลี้ยง เพชรเม็ดงามแห่งวงการคาราเต้ไทย คงอยู่ไม่ไกลเกินฝันอย่างแน่นอน
