แค่ได้ยินข่าวก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนมวยทั่วโลกแล้ว สำหรับการประกาศคอนเฟิร์มการชกไฟต์หยุดโลกของสองยอดนักชกแห่งเกาะอังกฤษ “แอนโธนี่ โจชัว กับ ไทสัน ฟิวรี่” เพราะนี่คือสองยอดมวยแห่งยุคที่แฟนมวยทั่วโลกต่างอยากจะเห็นขึ้นสังเวียนดวลกำปั้นกันซักที และสุดท้ายแฟนมวยทั่วโลกก็สมหวังเสียที เมื่อเอ็ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์ชื่อดังของทางแอนโธนี่ โจชัว ออกมาประกาศยืนยันแล้วว่า ทั้งคู่จะทำการชกกัน 2 ไฟต์อย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้ทำการกำหนดวันเวลาและสถานที่อย่างเป็นทางการ
นอกจากจะเป็นมวยคู่หยุดโลกที่แฟนมวยตั้งตารอแล้ว การเจอกันของคู่นี้ยังเต็มไปด้วยความหมายในด้านเกียรติยศและศักดิ์ศรีชนิดที่ยอมกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะมันจะเป็นการวัดกันไปเลยว่าระหว่างทั้งคู่ใครคือเบอร์หนึ่งบนเกาะอังกฤษและวงการมวยโลก นอกจากศักดิ์ศรีส่วนนี้แล้วการเจอกันของคู่นี้ยังมีเดิมพันใหญ่เป็นเข็มขัดแชมป์อีกด้วย แถมไม่ใช่เข็มขัดแชมป์แบบธรรมดา ๆ เพราะผู้ชนะของคู่นี้จะกลายเป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์ถึงสี่เส้นด้วยกัน เพราะในปัจจุบันแอนโธนี่ โจชัวในวัย 30 ปี เป็นเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกของสามสถาบันได้แก่ WBA, IBM และ WBO ส่วนไทสัน ฟิวรี่ วัย 31 ปี ก็ถือเข็มขัดแชมป์โลกของ WBC อยู่นั่นเอง และแน่นอนว่าผู้ชนะแชมป์เหนือแชมป์ระหว่างสองคนนี้ จะได้ครองแชมป์หมดทั้งสี่เส้นทันที ซึ่งเป็นเกียรติยศที่ยากที่จะมีนักมวยคนไหนปฏิเสธได้ลง
การดวลกันของสองยอดมวยรุ่นยักษ์คู่นี้ ถือเป็นคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อกันอย่างที่สุดทั้งในเรื่องของฝีมือบนสังเวียน และเกียรติยศชื่อเสียงในโลกแห่งหมัดมวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิดดูสถิติที่ผ่านมาของทั้งคู่แล้ว แอนโธนี่ โจชัวพกสถิติการชกมาที่ 24 ครั้ง ชนะ 23 แพ้ 1 และเป็นการชนะน็อคคู่แข่งไปถึง 21 ครั้งเลยทีเดียว ส่วนไทสัน ฟิวรี่ มีสถิติการชกที่ผ่านมา 31 ครั้งชนะ 30 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใครเลยซักครั้ง แถมเป็นการชนะน็อคถึง 21 ครั้งเท่ากันพอดิบพอดีอีกด้วย ดังนั้นรับประกันได้เลยว่าการเจอกันของคู่นี้ มีโอกาสสูงมากเลยที่จะจบแบบไม่ครบยก ถูกใจแฟนมวยสายฮาร์ดคอร์ที่หลงไหลในเสน่ห์ความหนักและการน็อคของมวยรุ่นใหญ่อย่างแน่นอน
ตอนนี้แฟนมวยทั่วโลกที่อยากจะเห็นการปะทะกำปั้นกันของคู่นี้ คงต้องภาวนาให้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่ทางฝ่ายจัดการแข่งขันสามารถกำหนดวันเวลาและสถานที่ให้ได้เสียที เพื่อที่เราจะได้เห็นการดวลกำปั้นของสองยอดมวยระดับ “ไฟต์หยุดโลก” ที่พวกเราต่างตั้งตารอกันเสียที เพราะนี่แค่ได้ข่าวคอนเฟิร์มการชกยังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการมวยแล้ว ถ้าได้ขึ้นชกกันจริง ๆ รับรองว่าจะมันกว่านี้อย่างแน่นอน
