มวยไทย

“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” สาวแกร่งแห่งวงการศิลปะการต่อสู้ไทย

พูดถึงกีฬาด้านศิลปะการต่อสู้ของประเทศไทย โดยเฉพาะมวยไทยที่เป็นมรดกทางการต่อสู้ของบ้านเรา มักจะมีนักชกฝีมือดีก้าวเข้าเป็นดาวประดับวงการอยู่เสมอ ที่สำคัญเหล่ายอดฝีมือที่ว่านั้นเราแทบจะเคยเห็นกันมาทุกเพศและทุกวัยกันเลย และนักสู้สาวชาวไทยคนล่าสุดที่กำลังอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จบนสังเวียนการต่อสู้ ก็คือสาวน้อยวัย 22 ปี จากจังหวัดระยอง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” นั่นเอง

เส้นทางสายนักสู้ของแสตมป์แทบจะเรียกได้ว่ามันอยู่ในสายเลือด เพราะเธอเริ่มที่จะเรียนรู้และฝึกวิชามวยไทย จากค่ายมวยที่บ้านของตัวเองตั้งแต่มีอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้นเอง โดยแรกเริ่มเดิมทีก็เพียงแค่อยากออกกำลังกายและเอาไว้ป้องกันตัวเท่านั้น แต่มวยไทยก็ทำให้เธอค้นพบพรสวรรค์ในตัวเอง โดยเพียงแค่ไฟต์แรกที่ก้าวขึ้นสู่สังเวียน เธอก็จัดการชนะน็อกคู่แข่งในยกแรกไปได้อย่างสวยงาม จากนั้นเธอก็เริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนสังเวียนมาเรื่อย ๆ และในระหว่างนั้นแววแชมป์ของเธอก็เริ่มเปล่งประกายด้วยการเป็นแชมป์สนามมวยท้องถิ่น และแชมป์ระดับภาคอีสานอีกสองรุ่น และนั่นจึงเป็นการปูทางให้เธอก้าวสู่ค่ายใหญ่แห่งเมืองพัทยา เมื่อเธอมีอายุได้ครบ 18 ปี และเส้นทางแห่งการเป็นยอดนักสู้ของเธอจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

เป้าหมายในการดึงแสตมป์เข้ามาเป็นนักชกในสังกัดนั้น ทางค่ายหวังจะปั้นให้เธอเป็นนักสู้แบบศิลปะผสมผสานหรือ MMA โดยใช้ความแข็งแกร่งและทักษะมวยไทยที่เธอมีอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน แต่ยังไม่ทันจะฝึกวิชาครบจบทั้งกระบวน แสตมป์ก็ได้โอกาสขึ้นไปชิงคิก บ็อกซิ่งเสียก่อนซึ่งเธอก็ไม่ทำให้ใครผิดหวังจัดการคว้าแชมป์โลก ONE คิก บ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวท มาครองได้สำเร็จ และในปีต่อมาเธอก็ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง สามารถสร้างประวัติศาสตร์ในวงการมวยหญิงด้วยการคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทยมาครองได้อีกหนึ่งเส้น ทำให้เธอกลายเป็นนักชกหญิงคนแรกที่คว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้ถึงสองรายการ ถึงแม้ว่าไม่นานมานี้เธอจะเสียเข็มขัดเส้นหนึ่งคือแชมป์คิก บ็อกซิ่งให้กับคู่ปรับกับอย่าง “เจเน็ท ท็อดด์” ยอดนัดสู้สาวอเมริกัน ทำให้เธอเหลือตำแหน่งแชมป์โลกเพียงแค่รายการเดียวก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอคือนักชกหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา

ด้วยวัยของเธอที่พึ่งจะยี่สิบต้น ๆ ต้องบอกเลยว่าเส้นทางการต่อสู้ของเธอพึ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้นเอง และด้วยพรสวรรค์และใจรักที่มีต่อศิลปะการต่อสู้ของเธอ เชื่อว่าเธอจะสามารถคว้าตำแหน่งแชมป์อีกหลายรายการมาฝากแฟนมวยชาวไทยอีกแน่ และที่สำคัญเป้าหมายของเธอและทางค่ายนั้น คือการก้าวไปเป็นสุดยอดนักสู้ในประเภทศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ซึ่งเธอกำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคเพิ่มเติมอยู่ และเพียงแค่แวะมาชกในเป้าหมายรอง ๆ เท่านั้นเธอก็ยังไปไกลถึงตำแหน่งแชมป์โลก รับรองว่าเมื่อเธอได้ขึ้นสังเวียนใน MMA ชาวไทยคงจะได้เห็นเธอใส่เต็มกว่านี้แน่นอน แล้วเราคงมีโอกาสได้เห็นชื่อของ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” จารึกอยู่บนหอเกียรติยศในฐานะแชมป์โลกอีกรายการหนึ่งอย่างแน่นอน

Similar Posts