MMA

ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว MMA (Mixed Martial Art) ที่ผสมผสานทุกจุดเด่นได้อย่างลงตัว

ในปัจจุบันนี้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือมวย MMA เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในประเทศไทยเองก็มีนักกีฬา MMA หลายท่าน อีกทั้งยังเคยทำชื่อเสียงให้กับประเทศมาแล้วทั้งชายและหญิง ถึงแม้ว่าด้วยสรีระของคนไทยจะเป็นข้อเสียเปรียบอย่างหนึ่งในการแข่งขันก็ตามแต่ด้วยหัวใจที่แกร่งของนักกีฬาไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก

การต่อสู้แบบผสมผสาน MMA หรือ Mixed Martial Art คือศิลปะการต่อสู้ที่ได้รวมเอาเทคนิคที่เป็นท่วงท่าแห่งเอกลักษณ์ของแต่ละอย่างมาใช้ อาทิ ยูยิตสุ มวย ยูโด เป็นต้น จึงไม่สามารถกำหนดท่วงท่าที่ตายตัวได้เหมือนกับกีฬาต่อสู้ประเภทอื่น ๆ นักกีฬาแต่ละท่านจะเลือกใช้ที่ตัวเองถนัดและสามารถใช้ได้ผลดีในการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ ภายใต้กฎกติกาที่เป็นสากล

นักกีฬาไทยในการเรียนรู้ MMA สู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพในระดับสากล

\สำหรับนักกีฬาไทยอาจจะยังมีไม่มากนักในเกมกีฬา MMA แต่นักกีฬาที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังก็สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับความนิยมไปทั่วโลกได้เช่นกันอย่างเช่นผู้บุกเบิก MMA ของไทยในนาม ครูตอง หรือชื่อจริง คุณชนนภัทร วิรัชชัย ซึ่งได้เริ่มต้นด้วยการร่ำเรียนยูโดมาตั้งแต่เด็ก และมองเห็นความสำคัญของกีฬาต่อสู้ จึงได้นำศิลปะการต่อสู้แขนงต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกัน เนื่องจากเห็นว่าการฝึกซ้อม MMA นั้นจะต้องอาศัยทักษะหลายด้านและสามารถออกอาวุธได้หลากหลาย จนได้มีโอกาสเปิดสอน MMA ขึ้น

นอกจากนี้ครูตอง ยังได้เข้าร่วมการแข่งขันในศึก  ONE Championship ซึ่งถือว่าเป็นสนามมวย MMA ที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคเอเชียและทั่วโลกก็รู้จักเช่นกัน จนได้แชมป์และได้กลายเป็นนักมวยคนสำคัญของ ONE Championship ในเวลาต่อมายังส่งเสริมให้ลูกศิษย์ทั้งชาย-หญิงได้มีโอกาสดี ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ริกะ อิชิเกะ เป็นนักกีฬาหญิงชาวไทยคนแรกในสังเวียน MMA, เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค,  แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ เป็นต้น หรือในศึกระดับโลกอย่างเวที UFC ก็ยังมีนักกีฬาหญิงไทยที่ได้เข้าไปสัมผัสการต่อสู้ที่ดุเดือดและสามารถคว้าแชมป์มาแล้วเช่นกัน นั่นก็คือ โลมา ลูกบุญมี คุณสุภิสรา คนหลัก นักสู้หัวใจแกร่งสาวชาวไทย จึงสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน ในอนาคตไทยจะมีนักกีฬา MMA เพิ่มขึ้นสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพในระดับสากล เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

ทุกจุดเด่นของกีฬาต่อสู้…สู่ความลงตัวในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน ( Mixed Martial Art)               

เพราะทุกจุดเด่นของกีฬาต่อสู้คือหนทางแห่งการก้าวสู่ชัยชนะบนสังเวียน เมื่อนำมาผสมผสานและใช้จุดเด่นเหล่านั้นได้อย่างลงตัวและเหมาะสมกับโอกาส อีกทั้งยังสามารถใช้ได้อย่างชำนาญแล้ว ย่อมทำให้นักกีฬาเกิดความมั่นใจว่าจะพิชิตคู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอน แต่ถึงแม้จะไม่ได้ตำแหน่งแชมป์ก็ยังสามารถนำไปปรับปรุงและพัฒนาฝีมือของตัวเองต่อไปได้ เพราะกีฬาย่อมมีทั้งแพ้และชนะ  สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือประสบการณ์ที่จะได้รับจากการแข่งขันในแต่ละครั้ง ทั้งสังเวียนเล็ก-ใหญ่แล้วยังได้สุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ

Similar Posts