นับเป็นข่าวดีของวงการกีฬาไทยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเราเริ่มจะเข้าสู่การควบคุมได้แล้ว ทำให้นักกีฬาแต่ละชนิดเริ่มจะกลับเข้ามาทำการฟิตซ้อมได้เสียที หลังจากต้องทำการกักตัวและแยกซ้อมเดี่ยวตามมาตรการควบคุมการระบาดมานาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข ที่ได้กลับมาฟิตซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะมีรายการชกที่สำคัญ คือการชกรอบคัดเลือกโอลิมปิก 2020 เลกที่สอง ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นการลุ้นเฮือกสุดท้ายในการคว้าตั๋วสู่โตเกียว
ซึ่งเจ้าเอ็มที่ได้มีการเปลี่ยนเวทน้ำหนักขึ้นมาชกในรุ่น 69 กิโลกรัม จากเดิมที่เคยชกในรุ่น 64 กิโลกรัมได้เพียงไม่นานนั้น ถึงแม้ว่าจะทำได้ดีในระดับหนึ่งในการคว้าเหรียญทองซีเกมส์มาได้เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่สำหรับในการคัดโอลิมปิกซึ่งถือว่าเป็นรายการระดับโลกนั้น ยังคงเป็นเรื่องยากพอสมควรสำหรับเจ้าตัว เพราะยังไม่ชินกับคู่ต่อสู้ในรุ่นนี้ซึ่งใหญ่กว่า หนักกว่ารุ่นที่เคยชกมาตลอด และการที่ประเทศไทยสามารถคลายล็อกให้กลับมาซ้อมได้เร็วกว่าหลาย ๆ ประเทศ จะทำให้เขาสามารถเตรียมความพร้อมได้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของการเรียกความฟิตของร่างกาย แก้ไขความผิดพลาดของตัวเองรวมไปถึงการศึกษาบรรดาคู่ต่อสู้รุ่น 69 กิโลกรัมให้มากกว่าเดิมนั่นเอง
ในส่วนของเวลาในการเตรียมความพร้อมนั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีเวลามากแค่ไหน เพราะประเทศฝรั่งเศสที่ได้สิทธิในการจัดการแข่งขันเลกที่สองนี้ ยังคงเป็นพื้นที่เสี่ยงในการแพร่ระบาดอยู่นั่นเอง จึงยังไม่สามารถกำหนดวันชกได้เสียที ซึ่งยังคงต้องรอดูว่าฝ่ายจัดการแข่งขันจะมีความเห็นเช่นไร จะรอให้สถานการณ์คลี่คลายก่อนหรือว่าจะทำการเปลี่ยนสถานที่จัดการแข่งขัน ซึ่งก็มีข่าวแว่ว ๆ มาว่าทางสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเลกที่สองแทนเช่นกันหากว่ากรุงปารีสยังไม่ปลอดภัย ซึ่งถ้าหากว่าได้จัดแทนจริงจะเป็นผลดีอย่างมากสำหรับนักชกไทยอย่างเจ้าเอ็มในการที่จะได้ชกในบ้านต่อหน้าแฟนมวยชาวไทย เพราะจะทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ในเรื่องของการเดินทาง สภาพภูมิอากาศและเสียงเชียร์จากแฟนมวย
วุฒิชัย มาสุข ถือเป็นหนึ่งในนักชกไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากผลงานการกวาดเหรียญทองมาแล้วทั้งในซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ ยังเหลือก็แค่โอลิมปิกที่ยังไม่เคยได้เหรียญ ดังนั้นการชกครั้งนี้จึงเป็นรายการสำคัญมากสำหรับเจ้าตัว ที่จะคว้าสิทธิ์เพื่อไปลุ้นเหรียญที่ยังไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต เพราะในปัจจุบันเขาก็มีอายุ 30 ปีแล้ว ทำให้โอลิมปิกครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วของเจ้าเอ็ม หลังจากเคยขึ้นชกรายการนี้มาแล้วเมื่อปี 2016 แต่ไม่มีเหรียญกลับมา
การได้โอกาสกลับมาทำการฟิตซ้อมเร็วกว่าคู่แข่งคนอื่น ๆ น่าจะสร้างความได้เปรียบให้กับเจ้าเอ็มและนักกีฬาไทยคนอื่น ๆ พอสมควร และหวังว่าเขาจะใช้ข้อได้เปรียบตรงจุดนี้ให้เป็นประโยชน์ ในการคว้าสิทธิ์สู่โอลิมปิก โตเกียวในปีหน้า มาฝากแฟนมวยชาวไทยได้สำเร็จอย่างที่ทุกคนตั้งตารอ
