หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากสำหรับวงการมวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครั้งหนึ่งสนามมวยกลายเป็นแหล่งแพร่กระจายขนาดใหญ่หรือ “ซูเปอร์ สเปรดเดอร์” ของประเทศมาแล้วครั้งหนึ่ง และทำให้เชื้อแพร่กระจายออกไปแทบจะทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จนทำให้สนามมวยถูกสั่งปิดไปทั้งประเทศ ซึ่งทำให้คนในวงการมวยได้รับผลกระทบไปทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้จัด ค่ายมวย นักมวย รวมไปถึงแฟนมวยอย่างพวกเราที่ไม่มีมวยให้ดูกันมานานหลายเดือน
และวันนี้ก็มีข่าวดีสำหรับคอหมัดมวยบ้านเราเสียที เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในบ้านเรา อยู่ในช่วงที่เข้าสู่การควบคุมได้แล้ว ซึ่งทางรัฐบาลได้ทำการปลดล็อกการควบคุมไปแล้วในหลายภาคส่วน รวมไปถึงวงการมวยด้วยทำให้สนามมวยสามารถกลับมาจัดรายการแข่งขันได้อีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างตามมาตรการควบคุมโรค ซึ่งที่สำคัญก็คือการจำกัดจำนวนผู้คนเข้าสนาม โดยอนุญาตให้นักมวยและผู้เกี่ยวข้องเข้าในสนามได้ไม่เกิน 50 คน นั่นเท่ากับว่าผู้ชมข้างสนามก็จะไม่มีตามไปด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมานั้นในการจัดการแข่งขันชกมวยแต่ละรายการ ผู้ชมถือเป็นส่วนที่สำคัญมากทั้งในแง่ของเงินรายได้ และบรรยากาศข้างสนาม ที่สามารถกระตุ้นและปลุกเร้าบรรดานักมวยได้เป็นอย่างดี ซึ่งบางครั้งนำมาซึ่งผลการแข่งขันที่ดุเดือดและพลิกกลับไปมาแบบสนุกตื่นเต้น อันเป็นมนต์เสน่ห์ของมวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่ในการจัดมวยในยุคนิว นอร์มอล นั้นสิ่งเหล่านั้นกำลังจะหายไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวงการมวยอย่างแน่นอน
อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่องรายได้จากการขายบัตรนี่แหละ ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่สูญเสียไปของฝ่ายผู้จัดที่มากมายเลยทีเดียว ซึ่งรายได้ส่วนนี้มันจะแปลโดยตรงไปเป็นเงินรางวัล เงินอัดฉีด รวมไปถึงค่าตัวของนักมวยแต่ละคนที่มาชกในรายการ รวมไปถึงค่าบำรุงรักษาสถานที่อีกด้วย แต่เชื่อว่าส่วนนี้ทางผู้จัดน่าจะหารายได้ส่วนอื่นเข้ามาทดแทนได้ แต่ก็อาจจะมีการลดค่าตัวนักมวยลงหรือลดนักมวยชื่อดังค่าตัวแพงที่จะดึงมาต่อยร่วมรายการลงเหลือน้อยหน่อย แต่ก็ยังเชื่อมือบรรดาผู้จัดว่าจะทำให้มวยไทยดุเด็ดเผ็ดมันได้เหมือนเดิม มีเพียงแค่บรรยากาศข้างสังเวียนนี่แหละที่น่าเป็นห่วง เพราะต้องยอมรับว่าเสียงเชียร์สำหรับมวยไทยนั้นมีความสำคัญมากจริง ๆ โดยเฉพาะในเวลาที่นักมวยกำลังตกเป็นรองเสียงเชียร์จากแฟนข้างสนามสามารถช่วยพวกเขาได้เยอะ ในทางกลับกันเมื่อไม่มีเสียงเชียร์จากที่เป็นรองอยู่แล้ว มีแต่จะเห็นคู่ต่อสู้ตัวใหญ่ขึ้น ๆ เท่านั้นเอง ซึ่งน่าจะทำให้โอกาสพลิกนรกแบบที่สนามมวยเรียก “ตลาดไฟไหม้” ซึ่งเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของสนามมวยมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามก็ยังถือเป็นข่าวดีสำหรับคนมวย ที่สนามมวยจะกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีเงื่อนไขด้านความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาก็เถอะ เพราะการขาดหายไปจากสังคมของมวยไทยนั้นมันทำให้บ้านเมืองเราเงียบเหงาไปมากเลย อย่างน้อยบรรยากาศการจับกลุ่มเชียร์มวยหน้าตู้ทีวีตามหมู่บ้านต่างจังหวัด ก็จะกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง ยังไงผู้ชมทางบ้านก็อย่าลืมเว้นระยะห่างและรักษาความสะอาด เพื่อความปลอดกันด้วยเช่นกันนะแฟนมวยทุกท่าน
